วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สุดยอดโรงเรียนวิถีพุทธ สร้างเด็กรุ่นใหม่ให้ภาคภูมิใจในความเป็นไทย ทัดเทียมนานาอารยประเทศในระดับสากล






โรงเรียนวัดสุทัศน์: สุดยอดโรงเรียนวิถีพุทธ สร้างเด็กรุ่นใหม่ให้ภาคภูมิใจความเป็นไทย

เมื่อได้มีการไปศึกษาดูงานด้านการศึกษาหรือโรงเรียนในต่างประเทศ เรามักจะพบว่าโรงเรียนในต่างประเทศนั้น มักจะมีการแต่งชุดด้วยชุดประจำชาติ หรือแสดงออกซึ่งเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเขาอย่างภาคภูมิใจ ทำให้เราคนไทยได้สะท้อนกลับมาย้อนมองโรงเรียนของเราในประเทศไทยด้วยความรู้สึกมีปมด้อยและเกิดคำถามว่า ทำไมเด็กนักเรียนในเมืองไทย จึงไม่มีสิ่งใดทำให้รู้สึกผูกพันและภาคภูมิใจในความเป็นไทย อย่างน้อยที่สุด ได้มีการแสดงออกด้วยการแต่งกายชุดไทยเป็นเครื่องแบบชุดนักเรียนบ้าง

โรงเรียนวัดสุทัศน์ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนระดับแกนนำหรือแนวหน้าในการจัดการศึกษาแบบโรงเรียนวิถีพุทธ ในสังกัดของสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร ได้มีความเคลือนไหวในระดับแนวหน้าอีกครั้งหนึ่งในการนำให้โรงเรียนในพื้นที่ กทม.ได้ปลูกฝังและส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้ภาคภูมิใจในความเป็นไทย ให้มีความคุ้นเคยเป็นปกติไม่รู้สึกแปลกแยกในการแสดงออกความเป็นไทย จึงได้จัดให้นักเรียน บุคลากรของโรงเรียนทุกคนแต่งกายด้วยชุดไทย ในทุกวันศุกร์ (เพิ่มเติมจากเดิมที่ได้ให้นักเรียนและบุคลากรได้ใส่ชุดขาวเข้าวัดปฏิบัติธรรมและพัฒนาวัดในทุกวันพระ จนเป็นที่จดจำและได้รับการชื่นชมอย่างดียิ่งมาแล้ว)

จากการที่นักเรียนและบุคลากรได้ใส่ชุดไทยที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ที่น่าภาคภูมิใจนี้ ได้สร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก จนทำให้เกิดความสนใจและมีแนวคิดที่จะมีการขยายผลการแต่งกายชุดไทยนี้ออกไปสู่โรงเรียนอื่นๆ ต่อไป ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนับสนุนจากมูลนิธิโรงเรียนวัดสุทัศน์ ผู้บริหาร ครูและผู้ปกครองเป็นอย่างดี

นับเป็นหนึ่งในแบบอย่างอันดียิ่งของโรงเรียนไทย ที่ต่อไปเมื่อเวลามีแขกต่างประเทศมาศึกษาดูงานโรงเรียนไทย เราจะได้นำเสนอโรงเรียนที่นักเรียนของเราได้แสดงออกความเป็นไทยให้เป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทยของเราอย่างภาคภูมิใจ ที่ทัดเทียมนานาอารยประเทศเขาสักที...






วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เยาวชนไทย นำเสนอโครงงานคุณธรรม ให้นายกฯ

  















รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเด็กและเยาวชนให้มีความคิดสร้างสรรค์ (31/7/2009)
พระมหาพงศ์นรินทร์ ฐิตวํโส ประธานโครงการพัฒนาโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ “เยาวชนไทยทำดีถวายในหลวง” วัดสุทัศนเทพวราราม นำคณะเยาวชนและครูที่เข้าร่วมโครงการฯ เข้าเยี่ยมคารวะ นายกรัฐมนตรี

วันนี้ เวลา 09.00 น. ณ ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พระมหาพงศ์นรินทร์ ฐิตวํโส ประธานโครงการพัฒนาโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ “เยาวชนไทยทำดีถวายในหลวง” วัดสุทัศนเทพวราราม ได้นำคณะเยาวชนและครูที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 30 คน เข้าเยี่ยมคารวะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานผลการเข้าร่วมโครงการฯ และรับโอวาทเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม
นางสาวอรวรรยา เชี่ยวชาญ ประธานโครงงานคลินิคคุณธรรมปี 2552 ได้กล่าวรายงาน ว่า โครงการพัฒนาโครงงานคุณธรรม เฉลิมพระเกียรติ “เยาวชนไทย” ทำดี ถวายในหลวง” เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เยาวชนได้รวมกลุ่มกันทำความดีอย่างมีปัญญา ทำให้เกิดการเรียนรู้คุณธรรม หลักธรรมและแนวพระราชดำริต่าง ๆ แบบเชิงรุกด้วยความรู้สึกเป็นเจ้าของ มีการทำงานอย่างเป็นระบบ ทำให้เกิดโครงงานทำความดีแก้ปัญหาต่าง ๆ ของเยาวชนด้วยตัวของเยาวชนเอง และกว่า 4 ปีที่ผ่านมา มีโครงงานคุณธรรมเกิดขึ้นกว่า 2 หมื่นโครงงาน ในปี 2551 โครงการได้ทำการคัดเลือกโครงงานเข้าสู่ระดับประเทศจำนวน 50 โครงงาน รวมกับโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ กิตติคุณ “ประโยชน์สุขแห่งมหาชน” ซึ่งเป็นโครงงานยอดเยี่ยมระดับประเทศ ที่เคยได้รับโล่รางวัลเกียรติยศพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ได้ทำงานต่อเนื่องมากว่า 3 ปี อีก 9 โครงงาน รวมเป็น 59 โครงงาน ที่ได้มาเข้าค่ายระดับประเทศ Moral Project Academy for Youth 9.2 เพื่อพัฒนาผู้นำเยาวชนให้เป็นวิทยากร
สำหรับกระบวนการโครงงานคุณธรรมในค่ายแห่งนี้ มีนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ประมาณ 140 คน ครู 45 คคน พระวิทยากร 10 รูป รวมประมาณ 200 รูป/คน ณ วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม 2552 และได้ร่วมจัดงานนิทรรศการโครงงานระดับประเทศในงานตลาดนัดคุณธรรม ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2552
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับฟังการนำเสนอโครงงานแบบย่อ จากตัวอย่างโครงการจำนวน 6 โครงงาน จากตัวแทนเยาวชน 3 กลุ่มประเด็น คือ การลดเลิกพฤติกรรมเสี่ยง เพิ่มงานจิตอาสา และพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง จากนั้นได้ให้โอวาทแก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง ถ้าคนไทยไม่สามารถแก้ไขในเรื่องของค่านิยมที่ผิด ไม่สามารถปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมได้ ทุกปัญหาย่อมแก้ไขได้ยาก หรือแทบจะแก้ไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง แต่ถ้าคนไทยสามารถทำให้สังคมเป็นสังคมคุณธรรมอย่างแท้จริง ปัญหาทุกอย่างย่อมสามารถแก้ไขได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สิ่งสำคัญและเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความห่วงใยมาโดยตลอดคือ เรื่องของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกอย่างรวดเร็ว ที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของคนไทยขาดมักจะขาดหายไป ซึ่งความจริงแล้วความเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เป็นสิ่งที่ไม่ดี ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ดีได้ แต่อยู่ที่ความพร้อมของคน และสังคมที่จะรับและรู้จักความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่สร้างสรรค์
การจัดค่ายสำหรับเยาวชนในการทำดีถวายในหลวง จึงถือได้ว่า เป็นการเพิ่มพื้นที่ในทางสร้างสรรค์ ซึ่งตรงกับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งรวมไปถึงเรื่องของการเอาใจใส่ในเรื่อง คน สัตว์ และกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลกำลังมีการดำเนินการที่จะผลักดันเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อสัตว์ให้เหมาะสม โดยจะมีการแยกประเภทของ สัตว์ป่า สัตว์เลี้ยง สัตว์ใช้งาน ซึ่งขณะนี้ยังมีปัญหาอยู่มากเกี่ยวกับการปฎิบัติของคนต่อสัตว์ทั้งหลายที่ยังคงมีการทารุณ มีการละเมิดสิทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเข้าไปคุ้มครองและแก้ไขจัดระบบให้ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในรื่องของเด็ก เยาวชน คนพิการ ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้สูงอายุนั้น ได้ให้กระทรวงศึกษาธิการ จัดทำโครงการที่ให้เด็กนักเรียนได้ใช้เวลาอยู่กับผู้สูงอายุ เพราะเชื่อว่านอกจากจะเป็นการลดช่องว่างระหว่างวัยได้เป็นอย่างดีแล้ว จะทำให้คนต่างวัย มีความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดสำคัญในการที่จะหล่อหลอมจิตใจของคนให้เห็นความสำคัญของการสืบทอดสืบสานสิ่งที่คนรุ่นก่อน ๆ ทำมา และเรียนรู้ในโลกที่เติบโตขึ้นมาในสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกันด้วย
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แม้สิ่งเหล่านี้รัฐบาลพร้อมจะสนับสนุนและรณรงค์ แต่รัฐบาลไม่สามารถบังคับได้ ไม่เช่นนั้นการแก้ปัญหาจะไม่จบสิ้น โดยเฉพาะในเรื่องของเทคโนโลยีกับเยาวชน เช่น การที่จะบังคับให้เด็กเล่นเกมไม่เกินวันละ 3 ชั่วโมงนั้น คงไม่สามารถทำได้ แต่สามารถชี้แจงและอธิบายให้เด็กเข้าใจในการเลือกเล่มเกมที่สร้างสรรค์ และต้องรู้จักความพอประมาณ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้รัฐบาลพร้อมที่จะผลักดัน แต่ต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ที่สำคัญต้องเข้าใจเด็กรุ่นใหม่ว่า มีความคิดที่แตกต่างจากเด็กในยุคก่อน ๆ ซึ่งถือเป็นธรรมชาติของความเปลี่ยนแปลง แต่เชื่อว่าโดยพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน จะรุ่นไหนก็ตาม ย่อมมีพื้นฐานความดีอยู่ในตัว เพียงแต่ว่าเราจะสามารถดึงออกมาและใช้ได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมสนับสนุนสิ่งดี ๆ ควบคู่กับการส่งเสริมในด้านคุณธรรม จริยธรรม โดยเฉพาะหลักธรรมคำสอนของศาสนา
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบหนังสือพลังแห่งแผ่นดิน นวมินทรมหาราชา พร้อมแผ่นซีดี Thailand in the 2000’ s แก่ พระมหาพงศ์นรินทร์ ฐิตวํโส และคณะครู และมอบหนังสือชุดเกี่ยวกับศิลปะการปั้นดิน และเสื้อฉันรักประเทศไทย แก่เยาวชนทุกคน พร้อมถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก
-----------------------------
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษกลัดดา /รายงาน


ขออนุโมทนา ข้อมูลจากเวบ http://media.thaigov.go.th/pageconfig/viewcontent/viewcontent1.asp?pageid=471&directory=1779&contents=34375

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ธรรมเทศนา "หลักชาวพุทธ" ฟื้นวิถีชาวพุทธสู่สังคมไทย เริ่มช่วงเข้าพรรษานี้

เล่าข่าว วันอาสาฬหบูชา 7 กรกฎาคม พ.ศ.2552 ที่ผ่านมาชาวไทย-ชาวพุทธเข้าร่วมทำบุญ ฟังเทศน์ฟังธรรมในวันสำคัญทางพุทธศาสนา ณ วัดญาณเวศกวัน

ถือเป็นนิมิตหมายอันเป็นมงคล ตัวแทนของ “กลุ่มชาวพุทธ 2552” ได้กราบอาราธนา พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต) แสดงธรรมเรื่อง “หลักปฏิบัติชาวพุทธ” (ที่มาดูจากหน้าความเป็นมา / สาระ / ความเป็นมาของหลักชาวพุทธ) สู่คนวงกว้าง ซึ่งพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์ได้โปรดเมตตาแสดงธรรมเทศนา แก่กลุ่มญาติธรรม และสาธารณชนถึง 4 วาระคือ
1. ในวาระโอกาสครบ 20 ปี ของวัดญาณเวศกวัน ประวัติความเป็นมา
2. การฉลองเสาอโศกที่สร้างขึ้น เป็นที่เรียบร้อยโดยการฉลองครั้งนี้เพียงการตั้งจิตที่เป็นกุศลร่วมกัน
3. การแก้ไขความเข้าใจผิดเรื่องกรรมที่ว่า “เราเกิดมาใช้หนี้กรรม” ควรเข้าใจ ให้ถูกว่าเราเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อสร้าง สั่งสมความดีและ ทำกุศลให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท
4. คือเรื่อง “ หลักปฏิบัติชาวพุทธ”

งานบุญในวิถีเรียบง่ายของวิถีวัดญาณเวศกวันนั้น ทางกลุ่มชาวพุทธ 2552 ได้จัดทำ นิทรรศการประชาสัมพันธ์ และแจกเอกสารแผ่นพับให้ความรู้เรื่องหลักชาวพุทธ 5 หลักการและ 12 ข้อปฎิบัติขณะเดียวกันก็เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมสมาทาน หลักชาวพุทธครั้งแรก ในวันที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ.2552 เพื่อน้อมไปปฏิบัติในช่วงเข้าพรรษาและเป็นการเผยแพร่สู่วงกว้าง สำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติตามข้อปฎิบัติข้างต้นนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับเข้าร่วมในวันที่ ๘ กรกฎาคม เป็นอย่างมาก

ข้อมูลจาก http://www.chaobuddha.com

ชาวพุทธรวมใจ "สมาทานหลักชาวพุทธ" เปิดตััว5หลักการ12ปฏิบัติการ ฟื้นวิถีชาวพุทธ เริ่มเรียนรู้ตลอดพรรษานี้




เข้าพรรษานี้ ขอเชิญท่าน ร่วมนำชีวิตสู่ความดีงาม ตามแบบอย่างไทยๆ ร่วมกัน ด้วยการ ประกาศเจตนา สมาทานปฏิบัติตนตาม หลักชาวพุทธ


เนื่องจากในวันเข้าพรรษา ๘ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา นำโดย ฯพณฯ องคมนตรี พลากร สุวรรณรัฐ ประธานในพิธี และกลุ่มฆราวาสชาวพุทธ อันประกอบด้วยบุคคลหลากหลาย เช่น ครูอาจารย์ นักธุรกิจ ข้าราชการชั้นสูง สมาชิกวุฒิสภา ตลอดจน กลุ่มครอบครัวทั้งผู้ใหญ่เด็กและหนุ่มสาว สามร้อยคน ได้มารวมตัวกัน ณ อุโบสถ วัดญานเวศกวัน เพื่อสมาทานประกาศเจตนา ปฏิบัติตนตามหลักชาวพุทธ เพื่อน้อมนำคุณค่าแห่งพระรัตนตรัยสู่ชีวิต ฝึกตนด้วยสิกขา เพื่อการสร้างความเจริญแก่ตน และสังคม รวมถึงความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนา ในการสมาทานนี้ เพื่อที่จะตั้งมั่นในการปฏิบัติตนในช่วงเข้าพรรษา ๓ เดือนต่อไปข้างหน้า
การสมาทานปฏิบัติตนครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นของเหล่าชาวพุทธ ในวันเข้าพรรษาที่จะจัดวิถีชีวิตของตนเองให้ดำเนินไปตามหลักแห่งการเป็นพุทธศาสนิกชน อีกทั้งเป็นการรณรงค์เริ่มต้นให้แก่ฆราวาสผู้เป็นชาวชาวพุทธทั้งหลายได้ตระหนักถึงการเป็นชาวพุทธ ด้วยการปฏิบัติชีวิตให้สอดคล้องกับ วิถีวัฒนธรรมแห่งพุทธศาสนาของไทย ดั่งที่เคยเป็นมา เชื่อว่าเมื่อชาวพุทธร่วมใจกันปฏิบัติและเข้าใจในหลักการของการเป็นชาวพุทธ และปฏิบัติด้วยสัมมาทิฐิ เชื่อมั่นว่าชาวพุทธทั้งหลายจะประสพ ความสุข ร่มเย็นในตน รวมถึงจะนำพาประเทศชาติไปสู่ความมั่นคงและสันติสุข






ข้อมูลจาก http://www.chaobuddha.com

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

พระพุทธศาสนาผ่านเสียงเพลง...

พระพุทธศาสนาผ่านเสียงเพลง “วิสาขปุรณมี...คีตผสาน”
ท่านพระมหาพงศ์นรินทร์ ฐิตวํโส ประธานโครงการ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง"
พร้อมด้วย คณะกก. โครงการอัลบั้มเพลง “ประตูไร้ทางเข้า” และแขกผู้มีเกียรติ
อาทิ ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก , คุณหญิงโรส- รัญชา บริบาลบุรีภัณฑ์,พิสุทธิ์ เกรียงบูรพา ,
มณีนุช เสมรสุต, , อัญชลี ยุคลฯ,ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล,แววดาว ชัยถิรสกุล


น้องๆ จากสถาบันสอนศิลปะการใช้เสียงและลีลา Star Maker
ร่วมแสดงในเพลง “วิสาขบูชา” เพลงล่าสุดจากอัลบั้มโครงการ ประตูไร้ทางเข้า


จรูญ มีธนาถาวร ผอ.เขตสาทร รับมอบของที่ระลึกจาก ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก


ผู้แทนจากกระทรวงศึกษาธิการ รับมอบของที่ระลึกจาก ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก


เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ หันมาสนใจในพระพุทธศาสนาผ่านเสียงเพลง และขยายวงกว้างสู่สถาบันครอบครัวและโรงเรียนโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ร่วมกับคณะกรรมการดำเนินงาน โครงการอัลบั้มเพลงธรรมะ “ประตูไร้ทางเข้า” โด ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิตสาขาศาสนศาสตร์ และสถาบันสอนศิลปะการใช้เสียงและลีลา Star Maker จัดงาน“วิสาขปุรณมี...คีตผสาน” โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก หม่อมอัญชลี ยุคล ณ อยุธยา, ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล, คุณหญิงโรส บริบาลบุรีภัณฑ์, จรูญ มีธนาถาวร ผู้อำนวยการเขตสาทร, พลอย มหาดำรงค์กุล อัจฉราวดี วงศ์สกุล และพีรพล เอื้ออารีย์กุล มาร่วมเป็นเกียรติในงาน ณ ห้องเพอร์ซิมมอน ชั้น 11 โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ

ภายในงาน ท่านพระมหาพงศ์นรินทร์ ฐิตวํโส ประธานโครงการ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" แห่งวัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร พร้อมด้วย พิสุทธิ์ เกรียงบูรพา โปรดิวเซอร์อัลบั้มและเจ้าของผลงานหนังสือ ธรรมะชิวๆ, มณีนุช เสมรสุต ผู้อำนวยการสถาบันสอนศิลปะการใช้เสียงและลีลา Star Maker และ รัญชา บริบาลบุรีภัณฑ์ ทูตพระพุทธศาสนาวันวิสาขบูชาโลก ประจำปี 2550 ร่วมสนทนาหัวข้อ “วิสาขปุรณมี...คีตผสาน” พร้อมทั้งการแสดงเปิดตัวเพลง “วิสาขบูชา” เพลงล่าสุดจากอัลบั้มโครงการ ประตูไร้ทางเข้า ดำเนินรายการโดย เบ็กกี้- รมิดา รัสเซล

ปิดท้ายงานด้วยการมอบใบไม้ ให้เป็นสัญญลักษณ์แทน... ? กับผู้ร่วมงาน รวมทั้งพนักงานโรงแรมและเด็กนักเรียนของสถาบัน Star Maker เขียนถึงความดีที่ยังไม่ได้ทำลงในใบไม้ และมอบให้กับท่านมหาพงศ์นรินทร์ เพื่อนำไปแขวนภายในอุโบสถ์วัดสุทัศนฯ และเมื่อถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนาอีกวัน คือ วันอาสาฬหบูชา 7 กรกฎาคม 2552 ให้ผู้ที่เขียนคำปณิธานบนใบไม้สามารถกลับไปที่วัด เพื่อเปิดดูทบทวนว่าเราได้เริ่มทำความดีตั้งใจไว้แล้วหรือยัง

หม่อมอัญชลี ยุคลฯ และ ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล


เบ็กกี้- รมิดา รัสเซล ผู้ดำเนินรายการ


อรวรรณ ทรัพย์เมลือง,แชมป์-พีรพล เอื้ออารียกูล และ แววดาว ชัยถิรสกุล


น้องๆ Star Maker โชว์พลังเสียงจากเพลง วิสาขบูชา


ท่านพระมหาพงศ์นรินทร์ ฐิตวํโส ร่วมสนทนาหัวข้อ “วิสาขปุรณมี...คีตผสาน”


ขอขอบคุณอนุโมทนาข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์แนวหน้า ลิงค์: http://www.naewna.com/news.asp?ID=161659

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Buddha Jayanti celebration to mark the completion of 2,600 years of the Enlightenment

The programme for Buddha Jayanti celebration to mark the completion of 2,600 years of the Enlightenment in 2011 was handed over to President Mahinda Rajapaksa at Temple Trees, yesterday by the Vice Chancellor of the Kelaniya University Ven. Welamitiyawe Kusaladhamma Thera. This programme is drawn up by a committee comprising the Maha Sangha and leaders of Buddhist Societies. Picture by Sudath Silva.



วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2552

Buddhist Film Festival @Vesak2009

Celebrating Vesak with Cinema

By Susitha R. Fernando, The Sunday Times, Feb 8, 2009

Colombo, Sri Lanka -- First ever Buddhist film festival will be opened with Vesak celebration 2009 together with film screenings, book fairs, art exhibitions, beautiful decorations like pandals and food festivals from May 9 to 16, 2009 at BMICH premises.


With the aim of disseminating Buddhism using audio visual media, this colourful international event is organised by Light of Asia Foundation.

The Festival will consist of a Short Film Competition, Feature Film Exhibition and Workshops with objective to encourage film makers globally to make films on Buddhist themes, as well as to enlighten viewers on the depth of Buddhism.

“This attempt is only a preparation for the Vesak 2011 which we are planning to make the most internationally attractive event in Sri Lanka. It will be like going to London for Christmas,” said the man behind the organising the event, Navin Gooneratne.

The year 2011 is also important as we are planning to release a major film on the life of the Lord Buddha of which the script is already completed and scheduled to be directed by world renowned Indian filmmaker, Shyam Benegal ...


... continue click www.buddhistchannel.tv

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2552

พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ชาวพุทธไทยเตรียมพร้อมเฉลิมฉลองหรือยัง?


ชาวพุทธไทย เตรียมพร้อมเฉลิมฉลอง
พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า พร้อมกับชาวพุทธทั่วโลกหรือยัง?

เมื่อต้นปี 2009 มานี้ ทางประเทศศรีลังกาได้ให้ความสนใจกับวาระมหามงคลแห่งชาติในเรื่องการเตรียมการ
สำหรับการเฉลิมฉลองเนื่องในมหามงคลวโรกาสที่บรมศาสดามหารัตนบุรุษเอกของโลก คือองค์สมเด็จ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ครบ 2,600 ปี โดยจะเริ่มการเฉลิมฉลองตั้งแต่วันวิสาขบูชา ปี 2011 ไปจนถึง
วันวิสาขบูชา ปี 2012 เป็นเวลา 1 ปีเต็ม และในช่วงระยะเวลาประมาณ 2 ปีจากนี้ไป ก็จะเริ่มมีการเตรียมการ
และการจัดงานต่างๆ เพื่อเป็นการโหมโรงและประชาสัมพันธ์การจัดงานปีแห่งการเฉลิมฉลองดังกล่าวล่วงหน้า
อย่างเช่น ในช่วงวันวิสาขบูชา ปี 2009 นี้ ที่กรุงโคลอมโบ ก็จะมีการจัดงาน Buddhist Film Festival 2009 ขึ้น

ทั้งนี้เป็นที่น่าตั้งคำถามว่า ประเทศไทย ในฐานะที่ได้รับการยกย่องและสถาปนาให้เป็นประเทศที่เป็น
ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลกนั้น ได้มีการเตรียมการจัดงานดังกล่าวนี้อย่างไรบ้างหรือไม่ ทำไมข่าวคราว
ความเคลื่อนไหวต่างๆ จึงช่างเงียบเชียบนัก หรือเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาแต่เพียงชื่อเท่านั้น 
คำถามหรือข้อสงสัยนี้จะเป็นบททดสอบความเข้มแข็ง ศรัทธา และปัญญาของพุืืทธศาสนิกชนชาวไทย ว่า
จะสามารถแสดงบทบาทนำในฐานะเป็นชาวพุทธในประเทศศูนย์กลางพุทธศาสนาของโลกได้จริงหรือไม่?

เวลาจากนี้ไปอีกเพียงแค่ 2 ปี เท่านั้น ซึ่งไม่นานเลย รัฐบาลไทย มหาเถรสมาคม มหาวิทยาลัยสงฆ์ 
และองค์กรชาวพุทธต่างๆ ในประเทศไทย จะมีการตระเตรียมงาน แผนงานต่างๆ อย่างไรบ้าง คงต้องติดตามกันต่อไป..

โดย ธรรมอาสา สื่อข่าววิถีพุทธ


ลิงค์ข่าวที่เกี่ยวข้อง